ThinkMarketsThinkMarkets
ThinkMarketsThinkMarkets

รูปแบบกราฟ

ผ่านรูปแบบกราฟเช่น หัวและไหล่ จุดสูงสุดสองครั้ง และรูปสามเหลี่ยม การซื้อขายสามารถใช้ในการวิเคราะห์จุดต่ำสุด จุดสูงสุด และการทะลุผ่านของตลาดได้

บทความ (2)

อธิบายรูปแบบกราฟ Head and Shoulders และ Inverse Head and Shoulders

อธิบายรูปแบบกราฟ Head and Shoulders และ Inverse Head and Shoulders

<p>รูปแบบกราฟ Head and Shoulders เป็นการกลับตัวของราคาที่ใช้กันมากที่สุดในการวิเคราะห์ทางเทคนิคทั้งในหมู่นักเทรดรายย่อยจนถึงระดับนักลงทุน<br /> <br /> รูปแบบราคานี้จัดอยู่ในประเภทรูปแบบการกลับตัว เมื่อรูปแบบนี้เกิดขึ้นบนกราฟ ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาอาจกลับตัวในทิศทางตรงกันข้าม</p> <h2>1. รูปแบบกราฟ&nbsp;Head and Shoulders คืออะไร?</h2> <p>รูปแบบกราฟ&nbsp;Head and Shoulders ประกอบไปด้วยคลื่น 3 ลูก โดยคลื่นกลางจะไปถึงจุดสูงสุดมากกว่าอีก 2 ลูกที่ด้านข้าง ราคาจะสร้างจุดสูงสุดแบบสวิงแรกและย้อนกลับ ซึ่งจะเป็นไหล่ซ้าย เมื่อย้อนกลับเสร็จสิ้นแล้ว ราคาจะพุ่งขึ้นเพื่อสร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นหัว สุดท้ายราคาจะตกลงและเด้งกลับ ทำให้เกิดจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า ซึ่งจะเป็นไหล่ขวาของรูปแบบ Head and Shoulders</p> <figure style="text-align: center;"><img alt="ideal-head-and-shoulders-pattern" src="/getmedia/b0fd67a4-116a-4add-8899-e3bdad243b99/ideal-head-and-shoulders-pattern.png" title="รูปแบบหัวและไหล่ในอุดมคติ" width="100%" /> <figcaption><br /> <span style="color:#4e5f70;">ภาพประกอบรูปแบบ Head and Shoulders ในอุดมคติ</span></figcaption> </figure> &nbsp; <p>อย่างที่คุณเห็น จะมีเส้นที่ถูกวาดจากด้านล่างของไหล่ เรียกว่า เส้น Neckline และใช้เป็นการยืนยันรูปแบบ Price Pattern นี้</p> <h2>2. จะวาดกราฟ&nbsp;Head and&nbsp;Shoulders ในกราฟจริงได้อย่างไร?</h2> <p>อันดับแรก เทรดเดอร์จะต้องใช้แพลตฟอร์มวาดกราฟ เช่น ThinkTrader ที่ให้ผู้ค้าเข้าถึงตัวบ่งชี้และเครื่องมือวิเคราะห์กราฟได้ฟรีและไม่จำกัด</p> <div style=" display: flex; align-items: center; gap: 10px; "><img alt="Bookmark-Chart-tools" src="/getmedia/797c8034-e968-403b-97e6-47030a8eb94c/Bookmark-Chart-tools.png" title="บุ๊กมาร์กเครื่องมือกราฟ" width="50%" /><img alt="Select-Chart-tools" src="/getmedia/b248077a-02ec-41ba-a1dd-02589e97067c/Select-Chart-tools.png" title="เลือกเครื่องมือกราฟ" width="50%" /></div> <p><br /> เทรดเดอร์สามารถใช้เครื่องมือ &ldquo;เส้นทาง&rdquo; เพื่อสร้างกราฟและคลิกขวาเพื่อยกเลิกการเลือกเครื่องมือและใช้เครื่องมือ &ldquo;เส้นแนวโน้ม&rdquo; เพื่อวาดเส้น Neckline</p> &nbsp; <figure style="text-align: center;"><img alt="Example-of-the-Head-and-Shoulders-Pattern" src="/getmedia/bce6b340-d3fe-4f66-97a9-86560f85ded0/Example-of-the-Head-and-Shoulders-Pattern.png" title="ตัวอย่างของรูปแบบหัวและไหล่" width="100%" /> <figcaption><br /> <span style="color:#4e5f70;">ตัวอย่างของรูปแบบ Head and Shoulders บนกราฟจริง</span></figcaption> </figure> <p><br /> ตามที่แสดงในภาพประกอบ ให้ใช้เครื่องมือ &ldquo;เส้นทาง&rdquo; เพื่อวาดการแกว่งตัวของราคา และใช้เครื่องมือ &ldquo;เส้นแนวโน้ม&rdquo; เพื่อวาดเส้น Neckline</p> <h2>3. ตัวอย่างกราฟ Head and Shoulders</h2> <p>ต่อไป เราจะแสดงตัวอย่างจริงบางส่วนบนกราฟจริง ซึ่งจะแสดงให้คุณเห็นว่ารูปแบบเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนในการซื้อขายจริง และปฏิกิริยาของตลาดเป็นอย่างไรหลังจากนั้น</p> &nbsp;&nbsp; <figure style="text-align: center;"><img alt="Head-and-shoulder-pattern" src="/getmedia/dac22bce-055b-4f9e-a10c-c4bac740188f/Head-and-shoulder-pattern.png" title="รูปแบบหัวและไหล่ในอุดมคติ" width="100%" /> <figcaption><br /> <span style="color:#4e5f70;">ตัวอย่างรูปแบบ Head and Shoulders บนกราฟจริง</span></figcaption> </figure> <p><br /> ตามที่คุณเห็น ราคาสร้างจุดสูงครั้งแรกที่ไหล่ซ้าย จากนั้นราคาก็ย่อตัวลงและพุ่งขึ้นสร้างจุดสูงอีกครั้ง ซึ่งก็คือหัว สุดท้ายราคาก็ตกลงมาและพุ่งขึ้นโดยไม่สร้างจุดสูงที่ต่ำกว่า ซึ่งจะเป็นไหล่ขวาของรูปแบบ</p> <p><br /> สุดท้าย เราสามารถวาดเส้นเชื่อมระหว่างด้านล่างของไหล่ซ้ายและขวาได้ เรียกว่า Neckline และสามารถใช้เป็นจุดยืนยันการเทรดได้ โดยเทรดเดอร์จะรอให้ราคาทะลุลงต่ำกว่าระดับนี้เพื่อยืนยันการกลับตัวเป็นขาลง</p> <p><br /> เมื่อเจอหน้าเทรดเหล่านี้แล้ว เราสามารถทำการเข้าเทรดได้เมื่อราคาทะลุ Neckline โดยสามารถวางจุดตัดขาดทุนไว้เหนือจุดสูงสุดของwไหล่ขวา และวางจุดทำกำไรโดยใช้อัตราส่วน Risk Reward 1:2 ตามที่แสดงในภาพประกอบด้านล่าง</p> <figure style="text-align: center;"><img alt="Entering-a-Trade-Using-the-Head-and-Shoulders-Pattern" src="/getmedia/a0daf68e-8b16-48b0-82d9-6811b3fd97fe/Entering-a-Trade-Using-the-Head-and-Shoulders-Pattern.png" title="การเข้าสู่การซื้อขายโดยใช้รูปแบบหัวและไหล่" width="100%" /> <figcaption><br /> <span style="color:#4e5f70;">ภาพประกอบการเข้าสู่การเทรดโดยใช้กราฟ Head and Shoulders</span></figcaption> </figure> <p><br /> อย่างที่คุณเห็น ราคาพลิกกลับลงมาและ ถึงจุดทำกำไรไปเรียบร้อย ทำให้การซื้อขายจบไปด้วยอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ 1:2</p> &nbsp; <h2>4. รูปแบบกราฟ&nbsp;Inverse Head and Shoulders</h2> <p>ตามที่เห็นก่อนหน้านี้ รูปแบบกราฟ&nbsp;Head and Shoulders&nbsp;เป็นรูปแบบการกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้นไปเป็นแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ยังมีรูปแบบอื่นอีกสำหรับการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงไปเป็นแนวโน้มขาขึ้น</p> <p><br /> รูปแบบนี่เรียกว่า &quot;Inverse Head and Shoulders&quot; และ ตามชื่อรูปแบบนี้จะเป็น Head and Shoulders แต่กลับด้าน</p> &nbsp; <figure style="text-align: center;"><img alt="Inverse-Head-and-Shoulders" src="/getmedia/88532e71-5d85-461e-af1a-0bfa6a20d9e4/Inverse-Head-and-Shoulders.png" title="Inverse Head and Shoulders" width="100%" /> <figcaption><br /> <span style="color:#4e5f70;">ภาพประกอบรูปแบบ Inverse Head and Shoulders ในอุดมคติ</span></figcaption> </figure> <p><br /> ตามที่คุณเห็น กราฟ Inverse Head and Shoulders ประกอบด้วยไหล่ซ้าย หัว ไหล่ขวา และ Neckline เช่นเดียวกับรูปแบบ Head and Shoulders ธรรมดา</p> <h2>5.&nbsp;ตัวอย่างกราฟ&nbsp;Inverse Head and Shoulders</h2> <p>ต่อไป เราจะแสดงตัวอย่างจริงของรูปแบบ Inverse Head and Shoulders บนกราฟจริงให้ดู<br /> &nbsp;</p> <figure style="text-align: center;"><img alt="Inverse-Head-and-Shoulders-on-real-chart" src="/getmedia/d20792b2-0f6d-4f8c-a67e-470c42b46392/Inverse-Head-and-Shoulders-on-real-chart.png" title="ตัวอย่างรูปแบบInverse-Head-and-Shouldersบนกราฟจริง" width="100%" /> <figcaption><br /> <span style="color:#4e5f70;">ตัวอย่างรูปแบบ Inverse Head and Shoulder บนกราฟจริง</span></figcaption> </figure> <p><br /> คล้ายกับรูปแบบ Head and Shoulders ก่อนหน้านี้ เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่การเทรดได้เมื่อราคามีการทะลุแนว Neckline เนื่องจากราคาได้ยืนยันการเปลี่ยนจากแนวโน้มขาลงไปเป็นแนวโน้มขาขึ้น</p> &nbsp;&nbsp; <figure style="text-align: center;"><img alt="Enter-trade-using-Inverse-Head-and-Shoulders-Pattern" src="/getmedia/77254cae-787c-4fd1-8625-7de248ba86ae/Enter-trade-using-Inverse-Head-and-Shoulders-Pattern.png" title="เข้าสู่การซื้อขายโดยใช้รูปแบบหัวและไหล่กลับด้าน" width="100%" /> <figcaption><br /> <span style="color:#4e5f70;">ภาพประกอบการเข้าสู่การซื้อขายโดยใช้รูปแบบ Inverse Head and Shoulders</span></figcaption> </figure> <p><br /> เมื่อคุณได้เรียนรู้วิธีใช้รูปแบบกราฟ Head and Shoulders และรูปแบบกราฟ Inverse Head and Shoulders ในการเทรดแล้ว คุณสามารถนำการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ ที่เทรดเดอร์คุ้นเคยไปใช้เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพการเข้าเทรดของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีก<br /> <br /> เทรดเดอร์สามารถใช้แนวทางการวิเคราะห์เพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น แนวรับและแนวต้าน หรืออินดิเคเตอร์เพื่อช่วยยืนยันการเข้าหน้าเทรดของตนเพื่อเพิ่มโอกาสชนะในการเทรดของเทรดเดอร์ได้</p> &nbsp;&nbsp; <figure style="text-align: center;"><img alt="enter-trade-with-verse-head-and-shoulders-convergence-price-action" src="/getmedia/311af3a3-07c3-4676-bb9b-a743ad44c66b/enter-trade-with-verse-head-and-shoulders-convergence-price-action.png" title="เข้าสู่การซื้อขายโดยใช้รูปแบบหัวและไหล่กลับด้านร่วมกับการบรรจบกันของการเคลื่อนไหวของราคา" width="100%" /> <figcaption><br /> <span style="color:#4e5f70;">ตัวอย่างการเข้าเทรดด้วยกราฟ Inverse Head and Shoulders พร้อมการบรรจบกันของ Price action</span></figcaption> </figure> <p><br /> อย่างที่คุณเห็น ราคาโดยรวมเป็นแนวโน้มขาขึ้น แต่ราคามีการพักตัวเป็นการเคลื่อนตัวในแนวโน้มขาลงระยะสั้น ราคาจึงลงมาที่ระดับแนวรับและก่อตัวเป็นรูปแบบกราฟ&nbsp;Inverse Head and Shoulders ตรงแนวรับพอดี จากข้อมูลนี้ เราสามารถมั่นใจได้ว่ารูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้นที่ระดับแนวรับจะมีโอกาสสูงที่จะส่งผลให้ราคาพลิกกลับขึ้นไป<br /> <br /> ต่อไปเป็นตัวอย่างเพิ่มเติมของการเทรดโดยใช้ Head and Shoulders ร่วมกับอินดิเคเตอร์แทน Price action</p> &nbsp;&nbsp; <figure style="text-align: center;"><img alt="Head-and-Shoulders-pattern-with-RSI" src="/getmedia/864ab7ac-9e27-4b16-832a-78ee6b577e41/Head-and-Shoulders-pattern-with-RSI.png" title="Head and Shoulders ร่วมกับ RSI" width="100%" /> <figcaption> <div><br /> <span style="color:#4e5f70;">ตัวอย่างการเทรดด้วยแบบ&nbsp;Head and Shoulders ร่วมกับ RSI</span></div> </figcaption> </figure> <p><br /> อย่างที่คุณเห็น เมื่อราคาฟอร์มส่วนหัวของรูปแบบ Head and Shoulders อินดิเคเตอร์ RSI แสดงสัญญาณ Overbought ซึ่งหมายความว่าราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจเกิดการกลับตัวในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จากนั้น ราคาจึงสร้างไหล่ขวาต่อไป และเราได้เข้าสู่การเข้าเทรดฝั่ง Sell ที่ Neckline ด้วยอัตราส่วน Risk Reward 1:2 เหมือนเดิม</p> <h2>6. การทดสอบระบบเทรด Head and Shoulders ย้อนหลัง</h2> <p>เมื่อเข้าใจรูปแบบ&nbsp;Head and Shoulders&nbsp;เป็นอย่างดีแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบรูปแบบดังกล่าวผ่านการทดสอบระบบเทรดย้อนหลัง กระบวนการนี้จะประเมินประสิทธิภาพของระบบเทรดด้วยรูปแบบ Head and Shoulders ด้วยข้อมูลในอดีต ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์ทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของระบบเทรดนี้<br /> <br /> ที่ ThinkMarkets เรามอบซอฟต์แวร์ทดสอบย้อนหลังฟรีให้กับลูกค้าทุกคนของเรา เรียกว่า Traders Gym แอปพลิเคชันนี้คล้ายกับฟังก์ชันรีเพลย์ของ TradingView อย่างไรก็ตาม หากต้องการรีเพลย์แท่งเทียนภายในวันบน TradingView เทรดเดอร์จะต้องซื้อการสมัครสมาชิกระดับพรีเมียมของ TradingView แต่ที่ ThinkMarkets ลูกค้าของเราสามารถทดสอบระบบเทรดของท่านบน Traders Gym ได้ฟรี<br /> <br /> นี่คือตัวอย่างการทดสอบย้อนหลังการระบบเทรด Head and Shoulders</p> &nbsp; <p>&nbsp;</p> <img alt="backtesting-head-and-shoulders-trading-system" src="/getmedia/3f156bae-0a72-44b0-82c5-48c4aaee21ac/backtesting-head-and-shoulders-trading-system.png" title="การทดสอบย้อนหลังระบบเทรดหัวและไหล่" width="100%" /> &nbsp; <p><br /> อย่างที่คุณเห็น ราคาได้สร้างไหล่ซ้าย หัว และไหล่ขวา เราก็ได้ร่างแนว Neckline ไว้แล้ว และรอให้ราคาทะลุแนว Neckline นี้ลงมา<br /> <br /> &nbsp;</p> <img alt="formed-shoulder-and-head-and-neckline" src="/getmedia/b0c35dee-60de-4334-bd90-598d5d49e9a9/formed-shoulder-and-head-and-neckline.png" title="สร้างไหล่ หัว และแนว Neckline" width="100%" /> &nbsp; <p>เมื่อราคาทะลุลงไปต่ำกว่าแนว Neckline เราจะเข้าสู่การเทรดฝั่ง Sell ด้วยอัตรา Risk Reward ที่ 1:2</p> <img alt="Risk-Reward-ratio" src="/getmedia/5120f9e8-2721-4589-8c24-e8175fe1fed3/Risk-Reward-ratio.png" title="อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน" width="100%" /> <p><br /> อย่างที่คุณเห็นว่าการทดสอบนี้ได้ผลและราคาได้ไปถึงเป้าหมายการทำกำไร แต่ในการเทรดก็จะมีการเทรดที่ไม่ประสบผลสำเร็จเช่นกัน เนื่องจากไม่มีกลยุทธ์การเทรดที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นการทดสอบย้อนหลังจึงเป็นส่วนสำคัญมากในการเดินทางของเทรดเดอร์</p> <h2>7. สรุป</h2> <p>รูปแบบกราฟ Head and Shoulders&nbsp;และ Inverse Head and Shoulders เป็นรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้เทรดเดอร์และนักลงทุน การเคลื่อนไหวของราคาแบบนี้ได้รับการทดสอบมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ และผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก<br /> <br /> ความแม่นยำสามารถปรับปรุงได้ดีขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวรับและแนวต้าน อินดิเคเตอร์ ฯลฯ<br /> <br /> ซึ่งทำให้ Head and Shoulders เป็นหนึ่งในวิธีการวิเคราะห์จุดเข้าเทรดเทรดแบบ Price action ที่ใช้งานง่าย อเนกประสงค์ในขาขึ้นและลง แม่นยำ และเทรดเดอร์สามารถเพิ่มไปในหน้าเทรดของตนได้</p>

7 min readผู้เริ่มต้น
รูปแบบกราฟ Double Tops และ Double Bottoms: การหาจุดเข้าเทรด

รูปแบบกราฟ Double Tops และ Double Bottoms: การหาจุดเข้าเทรด

<h2>เกริ่นนำ</h2> <p>รูปแบบกราฟ&nbsp;Double tops และ Double Bottoms เป็นหนึ่งในสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มที่พบบ่อยที่สุด ในบทความนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับวิธีที่จะระบุรูปแบบกราฟทั้งสองนี้ เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์คาดการณ์ทิศทางของราคาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น<br /> &nbsp;</p> <p>เมื่อความเชื่อมั่นในตลาดเกิดความเปลี่ยนแปลง ราคาของสินทรัพย์ในตลาดมักจะถูกสะท้อนออกมาให้เห็นผ่าน รูปแบบ Double Top ที่ส่งสัญญาณถึงราคาที่จะลดลง ในขณะที่รูปแบบ Double Bottom จะส่งสัญญาณถึงการเพิ่มขึ้นของราคา<br /> &nbsp;</p> <p>การเรียนรู้วิธีแยกแยะรูปแบบให้ออกจะเป็นส่วนสำคัญในการจดจำรูปแบบกราฟเหล่านี้ หลังจากนั้น เราจะสาธิตวิธีที่จะระบุรูปแบบกราฟเหล่านี้ในสถานการณ์จริง</p> <h2>1. รูปแบบกราฟ Double Bottom คืออะไร?</h2> <p>รูปแบบกราฟ Double Bottom หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า W Bottom เป็นสัญญาณรูปแบบการกลับตัวทั่วไปที่ใช้ในการพิจารณาว่าตลาดกำลังจะเข้าสู่สภาวะกระทิง (เทรนขาขึ้น) ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค<br /> &nbsp;</p> <p>รูปแบบนี้จะมีลักษณะคล้ายกับตัวอักษร &ldquo;W&rdquo; และโดยทั่วไปจะปรากฏที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง ซึ่งบ่งบอกว่าราคากำลังจะกลับตัวสูงขึ้น</p> <figure style="text-align: center;"><img alt="รูปแบบ-double-bottom" src="/getmedia/22c44942-adaa-47ad-b9c3-f51f4deef908/Double-Bottom-Pattern.png" title="รูปแบบ double bottom" width="100%" /> <figcaption><span style="color: #4e5f70;">Double Bottom Pattern (W Bottom)</span></figcaption> </figure> <p><br /> ในรูปแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงการที่ราคาตกลงสู่ระดับใกล้เคียงกันสองครั้งแต่ล้มเหลวในการทะลุแนวรับ ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงในการเทขายกำลังอ่อนลง และผู้ซื้อเริ่มเข้ามามีบทบาทในการควบคุมตลาด<br /> <br /> เมื่อราคาทะลุจุดสูงสุดระหว่างจุดต่ำสุดทั้งสอง (เส้น Neckline) ก็มักจะถูกมองว่าเป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงจุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงและเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น<br /> &nbsp;</p> <h2>2. กระบวนการในการก่อตัวของรูปแบบกราฟ Double Bottom</h2> <figure style="text-align: center;"><img alt="กระบวนการทำงานของรูปแบบ-Double-Bottom" src="/getmedia/16f2bf31-08d5-4ff0-91e8-86e447bfbc98/process-of-the-double-bottom-pattern.png" title="กระบวนการทำงานของรูปแบบ Double Bottom" width="100%" /> <figcaption><span style="color: #4e5f70;">กระบวนการทำงานของกราฟ Double Bottom</span></figcaption> </figure> <p>&nbsp;</p> <ol> <li><strong>การสร้างฐาน (1):</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>ราคาลงมาถึงจุดต่ำสุดในแนวโน้มขาลง</li> <li>คนส่วนใหญ่จะยังไม่รู้ว่านี่คือจุดต่ำสุด</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>การดึงกลับของราคาจนถึงเส้น Neckline:</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>หลังจากสร้างจุดต่ำสุด (1) ผู้ซื้อจะเข้าสู่ตลาดและดันราคาให้สูงขึ้น</li> <li>แนวโน้มขาลงไม่ได้กลับตัวอย่างสมบูรณ์ และจะมีการดีดตัวกลับของราคาบริเวณ Neckline อีกครั้ง</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>การสร้างฐาน (2):</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>หลังจากการดึงตัวกลับสั้นๆ ราคาก็ตกลงอีกครั้ง โดยเข้าใกล้จุดต่ำสุดเดิม (1)</li> <li>เทรดเดอร์ที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงหากสังเกตได้ถึงพฤติกรรมนี้ ถ้าราคาไม่ลดลงต่อก็สามารถพิจารณาที่จะเข้าซื้อได้</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>ราคากลับตัวแล้วทะลุเส้น Neckline:</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>หลังจากจุดต่ำสุด (2) ทรงตัว หากราคาสามารถทะลุเส้น Neckline เพื่อเปลี่ยนจากสภาวะตลาดหมีเป็นตลาดกระทิง</li> <li>นักลงทุนสามารถเข้าซื้อที่จุดนี้ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นและตั้งจุดหยุดขาดทุนไว้ต่ำกว่าเส้น Neckline</li> </ul> </li> </ol> <h2><br /> 3. ตัวอย่างรูปแบบกราฟ Double Bottom</h2> <p>ภาพด้านล่างเป็นการแสดงตัวอย่างกราฟ Double Bottom จากกราฟราคา USD/CAD<br /> &nbsp;</p> <img alt="รูปแบบ Double-Bottom จากกราฟราคา USD/CAD" src="/getmedia/451ef76a-a7a7-445e-a6d6-fa114ea91570/Double-Bottom-pattern-from-the-USDCAD-price-chart.png" title="รูปแบบ Double Bottom จากกราฟราคา USD/CAD" width="100%" />&nbsp; <p>&nbsp;</p> <ol> <li><strong>การสร้างฐาน (1):</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>สร้างฐานที่ 1 โดยที่ราคาแตะจุดต่ำสุดในเดือนพฤษภาคม หลังจากราคามีการลดลงอย่างต่อเนื่อง</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>การดึงกลับของราคาจนถึงเส้น Neckline:</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>หลังจากจุดต่ำสุด (1) ราคาเริ่มยกตัวสูงขึ้น ทำให้เกิดการฟื้นตัวที่เห็นได้ชัดเจน</li> <li>การรีบาวด์นี้ถึงจุด Neckline ตามที่แสดงในแผนภูมิ</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>การสร้างฐาน (2):</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>หลังจากการดีดตัวสั้นๆ ราคาก็ตกลงอีกครั้ง โดยเข้าใกล้ระดับฐาน (1)</li> <li>เป็นการทดสอบว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้า [ ฐาน (1) ] ว่าแข็งแรงหรือไม่</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>ราคากลับตัวแล้วทะลุเส้น Neckline:</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>หลังจากที่จุดต่ำสุด (2) ทรงตัว ราคาจะหยุดลดลงและเริ่มยกตัวสูงขึ้น</li> <li>ราคาทะลุเส้น Neckline บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้น</li> </ul> </li> </ol> <h2><br /> 4. รูปแบบกราฟ Double Top คืออะไร?</h2> <p>รูปแบบกราฟ Double top หรือที่เรียกว่า M top เป็นสัญญาณรูปแบบการกลับตัวทั่วไปที่ใช้ในการพิจารณาว่าตลาดกำลังจะเข้าสู่สภาวะหมี (เทรนขาลง) ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค<br /> <br /> รูปแบบนี้มีลักษณะคล้ายกับตัวอักษร &ldquo;M&rdquo; และโดยทั่วไปจะปรากฏที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าราคากำลังจะกลับตัวลดลง</p> <figure style="text-align: center;"><img alt="Double Top รูรูปแบบ" src="/getmedia/ba0f07f6-1518-482b-a498-2625a424fed7/Double-Top-Pattern.png" title="Double Top รูรูปแบบ" width="100%" /> <figcaption><span style="color: #4e5f70;">Double Top Pattern (M Top)</span></figcaption> </figure> <p><br /> ในรูปแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงการที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับใกล้เคียงกันสองครั้งแต่ไม่สามารถขึ้นต่อหรือทะลุแนวต้านได้ ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงในการซื้ออ่อนลงและผู้ขายเริ่มเข้ามามีบทบาทในการควบคุมตลาด<br /> <br /> เมื่อราคาทะลุจุดต่ำสุดระหว่างจุดสูงสุดทั้งสอง (เส้น Neckline) มักจะถูกมองว่าเป็นสัญญาณขายที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงจุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้นและเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง<br /> &nbsp;</p> <h2>5. กระบวนการในการก่อตัวของรูปแบบกราฟ Double Top</h2> &nbsp; <figure style="text-align: center;"><img alt="กระบวนการทำงานของรูปแบบ Double Top" src="/getmedia/0fc664d7-e4b9-4dda-bdb8-1a2aa37bb536/Working-process-of-the-Double-Top-pattern.png" title="Double Top รูรูปแบบ" width="100%" /> <figcaption><span style="color: #4e5f70;">กระบวนการทำงานของรูปแบบ Double Top</span></figcaption> </figure> <p>&nbsp;</p> <ol> <li><strong>สร้างยอดบนสุด (1):</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>หลังจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาได้ถึงระดับสูงสุด (ยอดที่ 1) โดยได้แรงหนุนจากการซื้อที่แข็งแกร่ง</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>การย้อนกลับของราคาจนถึงเส้น Neckline:</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>หลังจากถึงจุดสูงสุดแล้ว แรงกดดันในการขายจะทำให้ราคาตกลงไปที่ระดับแนวรับ (เส้น Neckline)</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>สร้างยอดบนสุด (2):</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>ราคาดีดตัวขึ้นจากเส้น Neckline จนถึงยอดที่ 1 และสร้างยอดใหม่าที่จุด 2</li> <li>หากราคาไม่ทะลุแนวต้าน แสดงว่าโมเมนตัมขาขึ้นกำลังอ่อนตัวลง</li> <li>นักลงทุนควรระมัดระวังหากพบว่าราคาไม่สามารถเพิ่มขึ้นต่อไปและเริ่มลดลง เนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>ราคากลับตัวแล้วทะลุเส้น Neckline:</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>ราคาเริ่มตกอย่างต่อเนื่องและทะลุเส้น Neckline</li> <li>นักลงทุนควรระมัดระวังเนื่องจากตลาดเปลี่ยนสภาวะจากตลาดกระทิงเป็นหมี และควรพิจารณาหยุดขาดทุนในฝั่งซื้อหรือเข้าทำการชอร์ต (ขาย)</li> </ul> </li> </ol> &nbsp; <h2>6. ตัวอย่างรูปแบบกราฟ Double Top</h2> <p>ภาพด้านล่างเป็นการแสดงตัวอย่างรูปแบบ Double Top จากกราฟราคา EUR/USD</p> <p><img alt="Double Top จากกราฟราคา EUR/USD" src="/getmedia/90796ee3-91a6-4630-aaee-c6e752a21eb9/Double-Top-pattern-from-the-EURUSD-price-chart.png" title="Double Top จากกราฟราคา EUR/USD" width="100%" /></p> <p>&nbsp;</p> <ol> <li><strong>สร้างยอดบนสุด (1):</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>ราคาขึ้นสู่จุดสูงสุด (1) ในระยะสั้น</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>การย้อนกลับของราคาจนถึงเส้น Neckline:</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>ราคาตกลงจากจุดสูงสุดที่ (1) ไปยังจุดที่ทำให้เกิดแนวรับหลักรับ (เส้น Neckline)</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>สร้างยอดบนสุด (2):</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>ราคาดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ โดยเข้าใกล้ระดับสูงสุด (1)</li> <li>เพิ่มเป็นการทดสอบโมเมนตัมขาขึ้นของตลาดว่ายังแข็งแรงอยู่ไหม</li> </ul> </li> <br /> <li><strong>ราคากลับตัวแล้วทะลุเส้น Neckline:</strong><br /> &nbsp; <ul> <li>ราคาเริ่มตกอย่างต่อเนื่องและทะลุเส้น Neckline</li> <li>นักลงทุนควรระมัดระวังเนื่องจากตลาดเปลี่ยนสภาวะจากตลาดกระทิงเป็นหมี และควรพิจารณาหยุดขาดทุนในฝั่งซื้อหรือเข้าทำการชอร์ต (ขาย)</li> </ul> </li> </ol> <h2><br /> 7. จะเพิ่มรูปแบบกราฟ Double Bottom หรือ Double Top บนแผนภูมิได้อย่างไร?</h2> <p>การบันทึกสัญญาณการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนแผนภูมิถือเป็นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พลาดโอกาสที่ดีในการเทรด คุณสามารถใช้ฟีเจอร์การสร้างกราฟของแพลตฟอร์ม ThinkTrader ของเราเพื่อใส่คำอธิบายประกอบและจดบันทึกรูปแบบ Double Tops หรือ Double Bottoms เมื่อมันเกิดขึ้น<br /> <br /> ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถติดตามจุดเข้าและออกได้ง่ายขึ้น ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดข้อมูลสำคัญใดๆ ในส่วนต่อไปเราจะใช้แผนภูมิของแพลตฟอร์ม ThinkTrader เป็นตัวอย่างเพื่อสาธิตวิธีใช้งานคุณสมบัติเหล่านี้<br /> <br /> ขั้นตอนในการเพิ่มรูปแบบบนแผนภูมิ:</p> <h3>ขั้นตอนที่ 1 : ใช้เส้น Trendline</h3> <p><img alt="ใช้เส้น Trendline" src="/getmedia/05cd5500-3c0a-4c8f-a672-6267416e9c6a/use-a-trendline.png" title="ใช้เส้น Trendline" width="100%" /></p> <h4>ขั้นตอนที่ 1.1 : เลือกเครื่องมือเส้นแนวโน้ม:</h4> <ul> <li>เลือกเครื่องมือวาดภาพจากแถบเครื่องมือบนแผนภูมิ</li> </ul> <h4>ขั้นตอนที่ 1.2 :&nbsp;เลือกเครื่องมือ:</h4> <ul> <li>เส้นแนวโน้ม(Trend line): ทำเครื่องมือเส้นแนวโน้มเชื่อมต่อจุดสูงหรือต่ำสุดในแผนภูมิ เพื่อระบุทิศทางของแนวโน้มราคา</li> <li>เส้นแนวนอน(Horizontal line): ใช้ทำเครื่องหมายเส้น Neckline เพื่อระบุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ</li> </ul> <h4>ขั้นตอนที่ 1.3 :&nbsp;การวาดรูปแบบ:</h4> <ul> <li>วาดกราฟ Double Tops หรือ Double Bottoms เมื่อมันเกิดขึ้นตามสัญญาณกราฟ</li> </ul> <h3>ขั้นตอนที่ 2&nbsp;: ใช้เครื่องมือระบุเส้นทาง (Path tool)</h3> <p><img alt="ใช้เครื่องมือระบุเส้นทาง" src="/getmedia/9c64afe7-7e55-4317-87a2-46dae3b68dc5/Path-tool.png" title="ใช้เครื่องมือระบุเส้นทาง" width="100%" /></p> <h4>ขั้นตอนที่ 2.1 :&nbsp;เลือกเครื่องมือระบุเส้นทาง</h4> <ul> <li>เลือกเครื่องมือวาดภาพจากไอคอนรูปแปรงบนแถบเครื่องมือด้านซ้ายของแผนภูมิ</li> </ul> <h4>ขั้นตอนที่ 2.2 :&nbsp;วาดรูปแบบ</h4> <ul> <li>คุณสามารถวาดรูปแบบบนแผนภูมิได้โดยตรงใช้เพียงแค่เครื่องมือนี้ โดยคลิกที่แผนภูมิหลังจากเลือกเครื่องมือเพื่อระบุรูปแบบที่คุณพบ ข้อดีคือมันมีหัวลูกศรซึ่งสามารถช่วยคุณทำเครื่องหมายทิศทางที่สอดคล้องกับมุมมองการซื้อขายของคุณ ตัวอย่าง: จากภาพด้านบน หลังจากที่คุณเลือกเครื่องมือระบุเส้นทาง คุณสามารถคลิกบนแผนภูมิที่จุด (a, b, c, d, e) ได้ทันทีเพื่อทำเครื่องกำหนดรูปแบบ</li> </ul> <h3>ขั้นตอนที่ 3 :&nbsp;ประยุกต์ใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์</h3> <h4>ขั้นตอนที่ 3.1 :&nbsp;เพิ่ม RSI ลงบนกราฟราคา</h4> <img alt="เพิ่ม RSI ลงบนกราฟราคา" src="/getmedia/b78d2b52-e57d-4968-99ea-d623630d3dd7/add-RSI-to-price-chart.png" title="เพิ่ม RSI ลงบนกราฟราคา" width="100%" /><br /> &nbsp; <ul> <li>เลือกฟังก์ชันอินดิเคเตอร์ (1) และพิมพ์ &ldquo;RSI&rdquo; จากนั้นเลือก &ldquo;Relative Strength Index&rdquo; (2) เพื่อเพิ่มอินดิเคเตอร์นี้</li> </ul> <h4>ขั้นตอนที่ 3.2 : ระบุสัญญาณ Divergences</h4> <p><img alt="ระบุสัญญาณ Divergences" src="/getmedia/d08592a2-99f4-489a-8117-938b9aa4a6a3/Identify-Divergence-signals.png" title="ระบุสัญญาณ Divergences" width="100%" /></p> &nbsp;<br /> &nbsp; <ul> <li>ในภาพด้านบน เราจะสามารถสังเกตสัญญาณ Bearish Divergence หลังจากเพิ่มอินดิเคเตอร์ RSI ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบ Double Top ซึ่งบ่งชี้ถึงการกลับตัวลงของราคา</li> </ul> &nbsp; <p>บนแพลตฟอร์มการซื้อขายบนเว็บ ThinkTrader ของเรา ซึ่งให้บริการโดย ThinkMarkets เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงเครื่องมือสร้างกราฟคุณภาพสูงและการเพิ่มอินดิเคเตอร์ได้อย่างไม่จำกัด<br /> <br /> นอกจากนี้เรายังมีฟีเจอร์การทดสอบย้อนหลัง (Backtest) ที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ Traders&rsquo; Gym ซึ่งสามารถช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการซื้อขายและกลยุทธ์ของพวกเขาได้ หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแม่นยำในการระบุกราฟ Double Top และ Double Bottom คุณสามารถใช้คุณสมบัตินี้เพื่อฝึกฝนได้<br /> <br /> คุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชันทั้งหมดนี้ได้ฟรี! เพียงใช้เวลาไม่กี่นาทีในการเปิดบัญชีซื้อขาย ThinkTrader กับ ThinkMarkets</p> <style type="text/css">a.cta-link { text-decoration: none; } a.cta-link:hover { text-decoration: underline; } </style> <p><a class="cta-link" href="https://www.thinkmarkets.com/th/thinktrader/" target="_blank">เปิดบัญชีตอนนี้เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการเทรดของคุณโดยคลิกที่ลิงก์</a></p> <h2>8. สรุป</h2> <p>ในบทความนี้ เราได้พูดคุยกันโดยละเอียดเกี่ยวกับกราฟ Double Top และ Double Bottom รูปแบบเหล่านี้มีส่วนช่วยที่สำคัญในคาดการณ์ราคาผ่านการวิเคราะห์ทางเทคนิค และสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้มของตลาดได้ อย่างไรก็ตาม ในการซื้อขายจริงจำเป็นต้องรวมปัจจัยหลายประการเข้าด้วยกัน เช่น แนวโน้มของตลาดและการบริหารความเสี่ยง</p>

6 min readผู้เริ่มต้น

รูปแบบกราฟ

ผ่านรูปแบบกราฟเช่น หัวและไหล่ จุดสูงสุดสองครั้ง และรูปสามเหลี่ยม การซื้อขายสามารถใช้ในการวิเคราะห์จุดต่ำสุด จุดสูงสุด และการทะลุผ่านของตลาดได้